การนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวผ่านด่านพรมแดนทางบก
การพิจารณาออกใบอนุญาต
(หรือยกเว้นใบอนุญาต) นำรถเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
ตลอดจนเงื่อนไขในการอนุญาต เช่น เอกสารประกอบการพิจารณา ประเภทรถที่จะอนุญาต
หรือเส้นทางในการใช้รถเป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
1. หลักการ
ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
โดยยานพาหนะที่จดทะเบียนต่างประเทศผ่านด่านพรมแดนทางบก สามารถปฏิบัติพิธีการศุลกากรโดยการจัดทำใบขนสินค้าพิเศษเพื่อนำยานพาหนะดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
ณ ที่ทำการของเจ้าหน้าที่ศุลกากรบริเวณด่านพรมแดนทางบก
และจะต้องนำยานพาหนะนั้นกลับออกไปภายในระยะเวลาที่กำหนด*
2. เอกสาร/หลักฐานประกอบการจัดทำใบขนสินค้าพิเศษ
2.1 เอกสารทะเบียนรถหรือเอกสารอื่นที่น่าเชื่อถือ
และในกรณีผู้เดินทางมิได้เป็นเจ้าของรถ
จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถที่แสดงเจตนาอนุญาตให้ผู้เดินทางนำยานพาหนะนั้นเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
2.2 หนังสือเดินทาง (Passport) ของผู้เดินทางที่ประสงค์จะนำยานพาหนะเข้ามาในราชอาณาจักรที่ผ่านการประทับตราตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
(กรณีผู้เดินทางมีสัญชาติไทยให้ยื่นเอกสารหลักฐานรับรองถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศ
หรือการประกอบอาชีพในต่างประเทศ หรือการสมรสกับคู่สมรสต่างประเทศ
หรือการศึกษาอยู่ในต่างประเทศ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาด้วย)
2.3 หนังสืออนุญาตนำรถเข้ามาใช้ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวซึ่งออกโดยกรมการขนส่งทางบก**
ยกเว้น
2.3.1 รถของประเทศที่มีความตกลงด้านการขนส่งทางถนน ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และ
สปป. ลาว
2.3.2 รถประจำถิ่น คือ รถของประเทศที่ไม่มีความตกลงด้านการขนส่งทางถนน
อันได้แก่ กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งได้นำรถเข้าออกทางจุดผ่านแดนทางบกเพื่อกิจธุระเป็นประจำ
เช่น ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค การรักษาพยาบาล การศึกษา เป็นต้น
2.3.3 รถที่นำเข้ามาตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลของประเทศนั้น
3. ขั้นตอนการปฏิบัติพิธีการ
3.1 ผู้เดินทางนำยานพาหนะที่ประสงค์จะนำเข้าชั่วคราวพร้อมเอกสารตามข้อ
2. มาติดต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ด่านพรมแดนทางบก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
3.2 เมื่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ตรวจสอบแล้ว
หากเห็นว่าครบถ้วนถูกต้องจะทำการบันทึกข้อมูลและออกใบขนสินค้าพิเศษสำหรับยานพาหนะที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
แล้วมอบให้ผู้เดินทางเก็บไว้เป็นหลักฐาน
3.3 ผู้เดินทางจะต้องนำยานพาหนะที่ได้นำเข้ามานั้น
กลับออกไปภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยเมื่อผู้เดินทางเดินทางมายังด่านพรมแดนทางบก
(ไม่ว่าจะเป็นด่านพรมแดนเดียวกับที่ได้นำยานพาหนะเข้ามาหรือไม่ก็ตาม)
จะต้องนำยานพาหนะพร้อมใบขนสินค้าพิเศษที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้มอบไว้ให้ในข้อ 3.2
มอบแก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรเพื่อตรวจสอบ
3.4 เมื่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบแล้ว
หากพบว่ายานพาหนะที่จะนำกลับออกไปนั้นถูกต้องตรงกับรายละเอียดในใบขนสินค้าพิเศษที่ได้จัดทำไว้ในข้อ
3.2 และไม่เกินระยะเวลาที่กำหนด ก็จะอนุญาตให้ยานพาหนะนั้นผ่านด่านพรมแดนเพื่อกลับออกไปนอกราชอาณาจักร
แต่หากพบว่าการนำเข้ามาเกินระยะเวลาที่กำหนด จะทำการเปรียบเทียบปรับวันละ 1,000 บาท นับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดแต่รวมแล้วไม่เกิน 10,000 บาท
กรณีที่พบว่ายานพานะที่จะนำกลับออกไปไม่ถูกต้องตรงตามใบขนสินค้าพิเศษที่ได้จัดทำไว้หรือผู้เดินทางมีเจตนาที่จะไม่นำยานพาหนะกลับออกไป
กรมศุลกากรจะดำเนินการสืบสวนและติดตามตัวผู้เดินทางมาดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
หมายเหตุ
*ระยะเวลาที่กำหนด
ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขระยะเวลาที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะพิจารณาอนุญาตให้ผู้เดินทางที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติใดสามารถพำนักอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลาเท่าใด
**หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการขออนุญาตเป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dlt.go.th/
