คำตอบ :
ขั้นตอนการดำเนินการด้านการศุลกากร
ประกอบด้วย
1.
การลงทะเบียนเป็นผู้นำของเข้า ผู้ส่งของออก ตัวแทนผู้ขนส่ง ตัวแทนออกของ
ผู้รับผิดชอบการบรรจุ และอื่นๆ
ในการดำเนินการใดเกี่ยวกับการศุลกากร
กฎหมายกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้อง เช่น
ผู้ควบคุมยานพาหนะเข้าออก ผู้นำของเข้า
ผู้ส่งของออก ตัวแทนออกของ และ อื่นๆ กรมศุลกากรได้ออกประกาศกำหนดให้บุคคลดังกล่าวต้องมาลงทะเบียนกับกรมศุลกากร เพื่อให้ทราบหน้าที่ความรับผิดชอบ และ
แสดงความสัมพันธ์ทางธุรกรรมระหว่างเอกชนต่อเอกชน โดยวิธีการจดทะเบียนเป็นผู้นำของเข้า ผู้ส่งของออก
ผู้ดำเนินการใดๆทางศุลกากร สามารถค้นหาได้ในเว็บไซด์ของกรมศุลกากร ที่ www.customs.go.th
1.1 สถานที่ยื่นคำขอลงทะเบียน
1) ส่วนทะเบียนและสิทธิพิเศษ
สำนักมาตรฐานพิธีการและราคาศุลกากร
ซึ่งตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคาร 120 ปี กรมศุลกากร
2) ฝ่ายบริหารงานทั่วไป
สำนักงานศุลกากร หรือด่านศุลกากรใด
1.2 อายุของทะเบียน
ไม่มีอายุเวลาสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ดำเนินธุรกรรมกับกรมศุลกากรอย่างต่อเนื่อง เว้นแต่
กรณีที่กรมศุลกากรพบว่าผู้ลงทะเบียนไม่มีการดำเนินการด้านการศุลกากรติดต่อกันภายในระยะเวลาที่กำหนด
กรมศุลกากรจะระงับการใช้ทะเบียน
โดยมีข้อกำหนดดังนี้
1) ภายในระยะเวลา 6
เดือนติดต่อกันสำหรับบุคคลธรรมดา
2) ภายใน 2 ปี สำหรับนิติบุคคล
หากผู้ถูกระงับการใช้ประสงค์จะดำเนินการด้านการศุลกากร
จะต้องมาดำเนินการยื่นคำร้องขอใช้ทะเบียนอีกครั้ง
2.
การดำเนินกระบวนการทางศุลกากรในระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร
2.1
การส่งข้อมูลใบขนสินค้าในระบบพิธีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันกรมศุลกากรได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในกระบวนงานการนำเข้า
การส่งออก และ การผ่านประเทศ เรียกว่า
ระบบพิธีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร ผู้ที่ประสงค์จะดำเนินพิธีการศุลกากรในระบบพิธีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสารต้องได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ส่งข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร
โดยสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จะเป็นผู้ทดสอบโปรแกรมการส่งข้อมูลต่างๆ
และอนุมัติให้เป็นผู้ส่งข้อมูลได้ ปัจจุบันการส่งข้อมูลสามารถดำเนินการได้
ดังนี้
2.1.1 ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก จัดหาโปรแกรมการส่งข้อมูลและลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ส่งด้วยตนเอง
2.1.2 ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก
จ้างตัวแทนออกของที่มีโปรแกรมการส่งข้อมูลและลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
เป็นผู้ส่งให้
2.1.3 ใช้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส
2.1.4
ใช้บริการการบันทึกโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากร
กรณีนี้มีค่าธรรมเนียมการบันทึกข้อมูล 100
บาท นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมการผ่านพิธีการศุลกากร 200 บาท
2.2
เมื่อจัดทำและส่งข้อมูลใบขนสินค้าในระบบพิธีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์แล้ว
ระบบกรมศุลกากรจะแจ้งให้ผู้นำเข้า ผู้ส่งออกมาชำระค่าภาษี และ
ตรวจปล่อยของจากศุลกากร
3. การดำเนินกระบวนการทางศุลกากรในรูปแบบเอกสาร
สำหรับของบางประเภท
กรมศุลกากรได้กำหนดให้การนำเข้า ส่งออก
ซึ่งของบางประเภทไม่ต้องดำเนินพิธีการศุลกากรในระบบพีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น ผู้นำเข้า หรือ ผู้ส่งออก
ที่ไม่เคยลงทะเบียนกับกรมศุลกากร ก็สามารถดำเนินการรับของ ส่งของ
ชำระค่าภาษีอากรได้โดยไม่ต้องมาลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้า ผู้ส่งออก กับกรมศุลกากร
กระบวนการนำเข้า ส่งออก
ซึ่งไม่ต้องปฏิบัติพิธีการในระบบพีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่
3.1.
การนำของเข้าทางไปรษณีย์
3.1.1
ของที่ส่งมายังผู้รับมีราคาศุลกากรไม่เกิน 1500 บาท และไม่ใช่ของต้องห้ามนำเข้า
หรือ ของที่ต้องขออนุญาตนำเข้า
3.1.2
ของที่มีลักษณะเป็นของตัวอย่างที่ใช้ได้เพียงการเป็นตัวอย่างไม่สามารถใช้ประโยชน์จากของตัวอย่างนั้นได้
ของในข้อ
3.1.1และ 3.1.2 เนื่องจากเป็นของที่มีกฎหมายบัญญัติให้ยกเว้นอากรทุกประเภท กรมศุลกากรจะส่งมอบของให้บริษัทไปรษณีย์ไทย
จำกัด เป็นผู้นำของไปส่งให้ผู้รับ
3.1.3
ของจากผู้ส่งรายหนึ่งถึงผู้รับรายหนึ่งในคราวเดียวกัน โดยมีราคาของไม่เกิน 40,000
บาท และเจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่บริษัทไปรษณีย์ไทย
จำกัด ได้ร่วมกันเปิดตรวจของ และ
เจ้าหน้าที่ศุลกากรเป็นผู้ประเมินค่าภาษีอากรสำหรับของนั้น เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะส่งมอบของให้บริษัทไปรษณีย์ไทย
จำกัด นำไปรอ ณ
ที่ทำการไปรษณีย์ใกล้บ้านผู้รับของ พร้อมส่งแบบแจ้งการรับของให้ผู้รับของทราบ ผู้รับของสามารถไปรับของได้ ณ
ที่ทำการไปรษณีย์ตามที่แจ้ง และชำระค่าอากรขาเข้าและภาษีอื่นๆ
โดยจะได้รับใบเสร็จรับเงินของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นหลักฐานการชำระค่าภาษี
กรณีผู้รับของไม่ประสงค์จะรับของ
หรือ มีประเด็นร้องขอให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรทบทวนการประเมินค่าภาษีอากร
ผู้รับของสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เพื่อขอให้ดำเนินการ
กรณีขอให้ทบทวนการประเมินค่าภาษี
ผู้รับของพิมพ์เอกสารการขอทบทวนการประเมินจากเว็บไซด์ของกรมศุลกากร และ ส่งเอกสารพร้อมหลักฐานที่แสดงการซื้อขายของดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์
เพื่อให้ส่งของนั้นกลับไปที่ทำการศุลกากร และ
ผู้รับของไปดำเนินการต่อไปกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร
3.2.
การส่งของออกไปต่างประเทศทางไปรษณีย์
ของดังต่อไปนี้
ที่ไม่เป็นของต้องห้าม หรือ ต้องขออนุญาตก่อนส่งออก หรือไม่เป็นของที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
หรือ ไม่ใช้สิทธิยกเว้นอากรตามภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร
พ.ศ.2530 หรือ
ไม่ประสงค์จะนำหลักฐานการส่งออกไปใช้เครดิตค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถส่งของ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ได้โดยไม่ต้องจัดทำใบขนสินค้าขาออกในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร
สามารถส่งทางไปรษณีย์ได้โดยไม่ต้องดำเนินพิธีการใดๆกับกรมศุลกากร
1.
ของทั่วไปที่ราคาของไม่เกิน 10,000 บาท
2. อัญมณีที่มีราคาของไม่เกิน 50,000 บาท และ
คำเตือน การส่งตัวอย่างสินค้า หรือการส่งของออก
ที่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในเรื่องการเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่ม
ต้องปฏิบัติพิธีการศุลกากรด้วยระบบพิธีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร
เท่านั้น
3.3. การนำเข้า
ส่งออก ของบางชนิดทางด่านชายแดน
3.3.1
การนำของติดตัวเข้ามาทางด่านพรมแดน หรือจุดผ่านแดนถาวร หรือจุดผ่านแดนชั่วคราว
หรือจุดผ่อนปรนทางการค้า โดยเป็นของที่มีมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) หรือ กรณีเป็นของต้องกำกัดในการนำเข้าตามกฎหมาย
แต่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบให้นำเข้าได้ และผู้นำของเข้ามีเงินพร้อมที่จะชำระอากรให้เสร็จในวันนำเข้านั้น
เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะคำนวณเงินค่าภาษีและออกใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานการชำระค่าภาษี
3.3.2 การส่งออกทางด่านชายแดน
มูลค่าของไม่เกิน 50,000 บาท และไม่เป็นของต้องเสียภาษีอากรขาออก
ไม่เป็นของต้องห้าม หรือ ต้องกำกัดการส่งออก ไม่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ไม่ใช้สิทธิยกเว้นอากรตามภาค 4
แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530
ให้ยื่นใบแจ้งรายละเอียดสินค้าขาออก (กศก.153) เป็นแบบที่กรมศุลกากรกำหนดเพื่อกำกับการส่งออกของทางด่านชายแดน
3.4. การนำเข้า
ส่งออก โดยใช้บริการผู้ประกอบการของเร่งด่วนที่ไปรับ ส่งของที่สถานประกอบการ
3.4.1 ของนำเข้าที่เป็นเอกสารต่างๆ ที่ไม่ต้องเสียอากรตามภาค 2 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530
3.4.2 ของนำเข้าที่ส่งมายังผู้รับมีราคาศุลกากรไม่เกิน 1500 บาท
และไม่ใช่ของต้องห้ามนำเข้า หรือ ของที่ต้องขออนุญาตนำเข้า
3.4.3
ของนำเข้าที่มีลักษณะเป็นของตัวอย่างที่ใช้ได้เพียงการเป็นตัวอย่าง ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากของตัวอย่างนั้นได้
3.4.4
ของนำเข้ามูลค่าไม่เกิน 40,000 บาท
และไม่เป็นของต้องห้ามนำเข้า หรือเป็นของที่ต้องขออนุญาตนำเข้า และผู้นำของเข้ายินยอมให้ผู้ประกอบการของเร่งด่วนทำหน้าที่แทนตนในการดำเนินการด้านศุลกากร
โดยผู้ประกอบการของเร่งด่วนจะทำหน้าที่ด้านการศุลกากรพร้อมชำระค่าภาษีอากรให้ก่อน
และจะนำของไปส่งให้ที่สถานประกอบการของผู้รับ
โดยกรมศุลกากรจะออกใบเสร็จรับเงินค่าภาษีอากรตามรายชื่อผู้นำของเข้า
3.4.5 ของส่งออกที่เป็นเอกสารต่างๆ ที่ไม่ต้องเสียอากรขาออก
และไม่เป็นของต้องห้ามส่งออก หรือ เป็นของที่ต้องขออนุญาตส่งออก
3.4.6 ของส่งออกมูลค่าไม่เกิน 500,000 บาท และไม่เป็นของต้องเสียภาษีอากรขาออก ไม่เป็นของต้องห้าม หรือ
ต้องกำกัดการส่งออก ไม่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ไม่ใช้สิทธิยกเว้นอากรตามภาค 4
แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530
ของในข้อ 3.4.1- 3.4.6
กรมศุลกากรอนุมัติให้ผู้ประกอบการของเร่งด่วนเป็นผู้ดำเนินการด้านพิธีการศุลกากรแทนผู้นำของเข้า
/ ผู้ส่งของออก ดังนั้นหากผู้นำของเข้า
หรือ ผู้ส่งของออกที่ตกลงให้ผู้ประกอบการของเร่งด่วนดำเนินการด้านพิธีการศุลกากรแทนตน
ก็ไม่ต้องลงทะเบียนเป็นผู้นำของเข้า / ผู้ส่งของออก กับกรมศุลกากร